#รถยนต์ไฟฟ้า

ตลาดรถยนต์อีวีไทยพุ่ง โต 238%

 

ที่ผ่านมาตลาดยานยนต์ของไทยได้เปิดรับรถยนต์อีวี เป็นจำนวนมาก จนมียอดการใช้รถยนต์อีวี สูงที่สุดในอาเซียนแบบที่ประเทศอื่น ๆ ยังตามห่างจากประเทศไทยอยู่มาก และจากปัจจัยนี้ ทำให้เป็นแรงดึงดูดสำคัญในการเข้ามาลงทุนตั้งฐานการผลิตรถยนต์อีวีในไทยเป็นจำนวนมาก และจะเพิ่มขึ้นอีกในอนาคต

 

โดย นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ รองประธานและโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยยอดใช้ยานยนต์ไฟฟ้าป้ายแดงประเภทรถยนต์ไฟฟ้า 100% หรือ BEV ในเดือนมกราคม 2567 ว่า ในเดือนมกราคม 2567 มียานยนต์ประเภทไฟฟ้า (BEV) จดทะเบียนใหม่มีจำนวน 15,943 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนธันวาคมปีที่แล้ว ร้อยละ 238.71

 

โดยแบ่งเป็น รถยนต์นั่งและรถยนต์ประเภทต่างๆ มีทั้งสิ้น 13,574 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม 2566 ร้อยละ 360.92 รถยนต์นั่งจำนวน 13,322 คัน รถยนต์โดยสารไม่เกิน 7 คนจำนวน 242 คัน รถยนต์บริการธุรกิจจำนวน 1 คัน รถยนต์บริการทัศนาจรจำนวน 9 คัน รถกระบะ รถแวนมีทั้งสิ้น 86 คัน รถยนต์สามล้อรับจ้างมีทั้งสิ้น 2 คัน และรถยนต์สามล้อส่วนบุคคลจำนวน 2 คัน

 

ส่วน รถจักรยานยนต์มีทั้งสิ้น 2,253 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม 2566 ร้อยละ 46.01 แบ่งเป็นรถจักรยานยนต์ส่วนบุคคลจำนวน 2,251 คัน รถจักรยานยนต์สาธารณะจำนวน 2 คัน รถโดยสารมีทั้งสิ้น 21 คัน รถบรรทุกมีทั้งสิ้น 7 คัน

 

สำหรับ ยานยนต์ไฟฟ้าป้ายแดงประเภท HEV เดือนมกราคม 2567 ยอดจดทะเบียนใหม่มีจำนวน 14,143 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนธันวาคมปีที่แล้วร้อยละ 83.99 โดยแบ่งเป็น รถยนต์นั่งและรถประเภทต่างๆ มีทั้งสิ้น 14,119 คัน รถยนต์นั่งจำนวน 14,097 คัน รถยนต์โดยสารไม่เกิน 7 คนจำนวน 1 คัน รถยนต์บริการธุรกิจจำนวน 6 คัน รถยนต์บริการทัศนาจรจำนวน 15 คัน รถจักรยานยนต์มีทั้งสิ้น 24 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม 2566 ร้อยละ 29.41 รถจักรยานยนต์ส่วนบุคคลจำนวน 24 คัน

 

ยานยนต์ไฟฟ้าป้ายแดงประเภท PHEV เดือนมกราคม 2567 มียอดจดทะเบียนใหม่มีจำนวน 940 คัน ลดลงจากเดือนธันวาคมปีที่แล้วร้อยละ 2.19 โดยแบ่งเป็น รถยนต์นั่งและรถประเภทต่างๆ มีทั้งสิ้น 940 คัน รถยนต์นั่งจำนวน 940 คัน

ส่วนยานยนต์ไฟฟ้าจดทะเบียนสะสมประเภท BEV ณ วันที่ 31 มกราคม 2567 มีจำนวนทั้งสิ้น 147,743 คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วร้อยละ 301.75