BOI ดันไทยติด 1 ใน 10 ผู้ผลิตรถอีวีโลก

มียอดผลิตรวม 7.6 แสนคันต่อปี

 

บีโอไอ ตั้งเป้าดันไทยติด 1 ใน 10 ผู้ผลิตรถยนต์อีวีระดับโลก ภายในปี 2573 มียอดการผลิตรวมกว่า 7.5 แสนคันต่อปี พร้อมดึงผู้ผลิตชิ้นส่วนของไทยเข้าสู่ห่วงโซ่การผลิต เพื่อให้ผู้ประกอบการไทยได้รับประโยชน์สูงสุด โดยล่าสุด ค่ายรถยนต์อีวี 5 ราย ตกลงซื้อชิ้นส่วนของไทยแล้วกว่า 4.5 หมื่นล้านบาท

 

นายนฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยว่า จากมาตรการส่งเสริมการผลิตรถยนต์อีวีที่ผ่านมา ได้มีค่ายรถยนต์อีวีจากทั่วโลก และของไทย เข้ามาตั้งฐานการผลิตในไทยแล้ว 18 โครงการ โดยได้ตั้งเป้าหมายภายในปี ค.ศ.2030 หรือปี พ.ศ.2573 จะผลิตรถยนต์อีวีให้ได้ 759,000 คัน แบ่งเป็นรถยนต์นั่ง และรถกระบะ 725,000 คัน และรถบัส รถบรรทุก 34,000 คัน และผลิตรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าอีก 675,000 คัน ซึ่งจะส่งผลให้ไทยเป็นฐานการผลิตรถยนต์อีวีติด 1 ใน 10 ของโลก และคงความเป็นผู้นำในการผลิตรถยนต์อีวีของอาเซียน

 

นอกจากนี้ บีโอไอ ยังได้เร่งส่งเสริมผู้ผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ของไทยปรับตัวเข้าสู่ห่วงโซ่การผลิตกับบริษัทรถยนต์อีวีเหล่านี้ เพื่อให้ผู้ประกอบการผลิตชิ้นส่วนของไทยได้รับประโยชน์จากการดึงดูดการลงทุนให้ได้มากที่สุด โดยที่ผ่านมา บีโอไอ ได้จัดงาน Sourcing Day ร่วมกับผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าไปแล้ว 5 ราย ได้แก่ บีวายดี , เนต้า , เอ็มจี , บีเอ็มดับบลิว และฉางอัน มีมูลค่าการซื้อชิ้นส่วนรถยนต์ของไทยในเบื้องต้นกว่า 4.5 หมื่นล้านบาท และจะเพิ่มขึ้นอีกมากในอนาคต

 

สำหรับ ค่ายรถยนต์อีวี ที่ประกาศเป้าหมายอย่างชัดเจนจะใช้ชิ้นส่วนที่ผลิตในไทย ได้แก่ ฉางอาน ได้แสดงถึงความตั้งใจจริงที่จะใช้ชิ้นส่วนในประเทศ โดยได้ประกาศเป้าหมายการใช้ชิ้นส่วนในประเทศมากถึงร้อยละ 60 ภายในปี 2568 และจะเพิ่มถึงร้อยละ 80 ภายใน 5 ปีอีกด้วย

 

บีวายดี BYD เตรียมใช้ชิ้นส่วนในประเทศมากกว่า ร้อยละ 40 จากผู้ผลิตชิ้นส่วนหลายรายในประเทศไทย และมีแผนการจัดซื้อเพิ่มขึ้นทุกปี ในอนาคตจะยกระดับการผลิตและพัฒนาชิ้นส่วนในประเทศให้เป็น “Made in Thailand” เพื่อสร้างความสำเร็จร่วมกัน

 

เกรท วอลล์ มอเตอร์ (GWM) จะใช้ไทยเป็นศูนย์กลางการผลิตรถยนต์อีวีของอาเซียน โดยจะร่วมมือกับซัพพลายเออร์ในประเทศไทยในการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ รวมถึงยกระดับ Supply Chain ของไทยให้แข็งแกร่งมากขึ้นและสร้างการเติบโตให้กับประเทศไทยในระยะยาว โดยจะเพิ่มการใช้ชิ้นส่วนในประเทศ ร้อยละ 80 – 90 ภายใน 3 – 5 ปีข้างหน้า

 

เนต้า มีการใช้ชิ้นส่วนในประเทศมากกว่าร้อยละ 60 จากผู้ผลิต 16 ราย และตั้งเป้าเพิ่มการใช้ชิ้นส่วนในประเทศให้ได้ถึงร้อยละ 85 โดยเชื่อมั่นด้านความพร้อมของ Supply Chain ที่แข็งแกร่งในประเทศไทย

 

โดยความร่วมมือเหล่านี้ จะทำให้เกิดการเชื่อมโยงกับผู้ผลิตชิ้นส่วนในประเทศใน Tier ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบการจัดซื้อชิ้นส่วน การว่าจ้างผลิต หรือการร่วมมือเพื่อถ่ายทอดองค์ความรู้และเทคโนโลยีมาสู่ผู้ประกอบการไทย จะทำให้ผู้ผลิตชิ้นส่วนของไทยเกิดการพัฒนาเทคโนโลยี และขยายไปสู่ห่วงโซ่การผลิตรถยนต์อีวีในระดับโลก

สามารถติดตาม THE DIMENSION ได้ตามช่องทางต่าง ๆ

related news

LATEST NEWS