เปิดผลสำรวจประเทศน่าลงทุน
ไทยอยู่ในอันดับ 2 ของอาเซียน
ในปัจจุบันหลายฝ่ายมองว่าศักยภาพในการดึงดูดการลงทุนของไทยลดลงมากจนยากที่จะแข่งขันกับประเทศเพื่อนบ้านในอาเซียน แต่หากมองในด้านตัวเลขเศรษฐกิจในทุกด้าน และจากการวิเคราะห์ของต่างชาติ พบว่า ศักยภาพการแข่งขันด้านดึงดูดการลงทุนของไทยยังคงอยู่ในระดับต้น ๆ ของอาเซียน
โดย จากการสำรวจของ US News & World Report ประจำปี 2566 จาก 87 ประเทศทั่วโลก พบว่าประเทศที่ดีที่สุดในการลงทุนในกลุ่มประเทศอาเซียน ไอ้แก่ อันดับ 1 สิงคโปร์ และเป็นอันดับ 5 ของโลก อันดับ 2 ไทย และเป็นอันดับ 31 ของโลก อันดับ 3 มาเลเซีย และเป็นอันดับ 32 ของโลก อันดับ 4 อินโดนีเซีย และเป็นอันดับ 38 ของโลก อันดับ 5 เวียดนาม และเป็นอันดับ 42 ของโลก และอันดับ 6 ฟิลิปปินส์ และเป็นอันดับ 59 ของโลก
ในขณะที่ประเทศที่ดีที่สุดในการตั้งสำนักงานใหญ่ของบริษัทข้ามชาติ อันดับ 1 สิงคโปร์ และเป็นอันดับ 13 ของโลก ดีขึ้นกว่าปีก่อน 4 อันดับ , อันดับ 2 ไทย และเป็นอันดับ 34 ของโลก ดีกว่าปีก่อน 6 อันดับ , อันดับ 3 มาเลเซีย และเป็นอันดับ 36 ของโลก ดีขึ้นกว่าปีก่อน 13 อันดับ , อันดับ 4 อินโดนีเซีย และเป็นอันดับ 51 ของโลก ลดลงจากปีก่อน 5 อันดับ , อันดับ 5 ฟิลิปปินส์ และเป็นอันดับ 61 ของโลก ลดลงจากปีก่อน 1 อันดับ และอันดับ 6 เวียดนาม และเป็นอันดับ 64 ของโลก ลดลงจากปีก่อน 2 อันดับ
ในด้านองค์ประกอบที่สำคัญในการดำเนินธุรกิจ อย่างเช่น การเปิดทำการสำหรับธุรกิจ ที่พิจารณาจาก 5 ปัจจัย คือ ระบบราชการ ต้นทุนการผลิต การทุจริต สภาพแวดล้อมทางภาษี และ แนวปฏิบัติของรัฐบาลที่โปร่งใส พบว่า อันดับ 1 ยังคงเป็นสิงคโปร์ และอยู่ในอันดับ 7 ของโลก , อันดับ 2 ไทย และอยู่ในอันดับ 9 ของโลก , อันดับ 3 มาเลเซีย และอยู่ในอันดับ 12 ของโลก , อันดับ 4 อินโดนีเซีย และอยู่ในอันดับ 19 ของโลก , อันดับ 5 ฟิลิปปินส์ และอยู่ในอันดับ 21 ของโลก และอันดับ 6 เวียดนาม และอยู่ในอันดับ 31 ของโลก
จากการจัดอันดับดังกล่าว ประเทศสิงคโปร์ ยังครองอยู่ในอันดับ 1 ทุกรายการ และเป็นอันดับต้นของโลก รองลงมาจะเป็นประเทศไทย และมาเลเซีย ที่มีอันดับอยู่ใกล้เคียงกันมาก ในขณะที่ประเทศเวียดนามที่หลายคนแสดงความกังวลว่าจะเข้ามาเป็นคู่แข่งแย่งการลงทุนจากไทย พบว่าจากการจัดอันดับของต่างชาติ ยังมีศักยภาพในการดึงดูดการลงทุนรั้งท้ายตาราง อยู่ในอันดับ 5 – 6 ของอาเซียน ซึ่งแม้ว่าเวียดนามจะมีความได้เปรียบไทยอยู่หลายด้าน ทั้งในเรื่องค่าจ้างแรงงาน และเป็นตลาดรองรับสินค้าขนาดใหญ่ แต่ไทยก็ได้เร่งพัฒนาปรับตัว เพื่อให้คงความเป็นผู้นำของอาเซียนในทุกด้าน
นอกจากนี้ จากผลวิจัยของ CEOWORLD magazine ได้จัดอันดับ ประเทศที่ดีที่สุดในโลกในการลงทุนหรือทำธุรกิจในปี 2567 โดยได้พิจารณาจากปัจจัยสำคัญ 11 ประการ ได้แก่ ระดับการทุจริต เสรีภาพส่วนบุคคล การค้า และการเงิน คุณภาพของแรงงาน มาตรการคุ้มครองนักลงทุน การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน นโยบายภาษี ตัวชี้วัดคุณภาพชีวิต ประสิทธิภาพของระบบราชการ และความพร้อมทางเทคโนโลยี ด้วยการประเมินประเด็นเหล่านี้อย่างครอบคลุม โดยตั้งเป้าที่จะให้ข้อมูลเชิงลึกที่มีคุณค่าแก่นักลงทุนและผู้ประกอบการเพื่อใช้เป็นแนวทางกระบวนการตัดสินใจ
โดยจากการสำรวจทั้งหมด 199 ประเทศทั้งโลก ซึ่งหากพิจารณาเฉพาะกลุ่มอาเซียน พบว่า อันดับ 1 สิงคโปร์ และอันดับ 1 ของโลก , อันดับ 2 อินโดนีเซีย และอันดับ 5 ของโลก , อันดับ 3 ฟิลิปปินส์ และอันดับ 9 ของโลก , อันดับ 4 มาเลเซีย และอันดับ 11 ของโลก , อันดับ 5 ไทย และอันดับ 12 ของโลก , อันดับ 6 เวียดนาม และอันดับ 26 ของโลก , อันดับ 7 เมียนมา และอันดับ 113 ของโลก , อันดับ 8 กัมพูชา และอันดับ 130 ของโลก , อันดับ 9 บรูไน และอันดับ 152 ของโลก และอันดับ 10 ลาว และอันดับ 156 ของโลก
ทั้งนี้ จากการจัดอันดับ และคะแนนที่ได้ จะพบว่าประเทศหลักของอาเซียน ได้แก่ สิงคโปร์ มาเลเซีย ไทย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ จะอยู่ในระดับที่ใกล้เคียงกัน คือ ติด 1 ใน 12 ของโลก ซึ่งเป็นอันดับที่สูงมาก ในขณะที่เวียดนามตามมาห่าง ๆ ในอันดับที่ 26 แล้วในกลุ่มอาเซียนที่เหลือก็หล่นไปอยู่ในอันดับที่ 113 – 156 ของโลก ดังนั้นจึงเห็นได้ชัดว่าประเทศในกลุ่มอาเซียนมีศักยภาพในการดึงดูดการลงทุน และการดำเนินธุรกิจสูง และยังมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก
ที่มา : https://www.usnews.com/news/best-countries/best-countries-to-invest-in
https://ceoworld.biz/2024/04/09/ranked-worlds-best-countries-to-invest-in-or-do-business-for-2024/